Tuesday, November 17, 2015
Wednesday, November 4, 2015
เทคนิคการขายสินค้าบนเน็ต
1. โพสต์ตามเว็บบอร์ด Classified ทั่วๆไป
ยิ่งโพสต์เยอะ ก็ยิ่งมีคนรู้จักเว็บเราเยอะครับ ผมจัดเวลาโพสต์ตามเว็บขายของทุกวัน วันละ 1-2 ชั่วโมง เราจะมีคนที่เห็นข้อความโฆษณาของเราและคลิกเข้ามาเพิ่มขึ้นทุกวันครับ
2. ทำการแลก Link กับเว็บไซต์ของคนอื่นๆ
โดยเฉพาะถ้าเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเราได้ก็จะดีมาก เช่น ถ้าเราขายเครื่องสำอางค์ ก็ไปแลกลิงก์กับเว็บเครื่องสำอางค์ เป็นต้นเพื่อให้มีผลทางด้าน Search Engine Optimize (หมายถึง ใครหาใน Google ก็เจอเว็บเรา)
3. สินค้ามีหลากหลาย ที่สำคัญต้องมี "เอกลักษณ์" ที่คนอื่นไม่มี
หาก มีโรงงานเอง หรือนำเข้าแต่เพียงผู้เดียว ก็จะทำให้มีภาษีดีกว่าคนที่ไปซื้อมาขายหรืออาจจะไม่ต้องมีโรงงานเอง แต่ไปติดต่อกับโรงงานเพื่อให้ผลิตให้เฉพาะที่เราต้องการสั่งก็ได้ครับ
4. รูปภาพต้องเยอะ
ซื้อขายกันที่รูปภาพ ไม่ค่อยมีใครมานั่งอ่านรายละเอียดก่อนหรอกครับ หากรูปภาพโดนใจ จึงจะอ่านข้อมูลสินค้า
รูปต้องเยอะ รูปต้องสวย (แต่ต้องไม่แต่งเกินจริง) เห็นได้ชัดเจน ใหญ่พอประมาณ ไม่เล็กกระจิ๋วดูแล้วมองภาพออกทันทีว่าสินค้าเราเป็นอย่างไร อย่างนี้จะแจ่มมาก
5. อัพเดตรูปสินค้าให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าสินค้ามีไม่มาก ใช้วิธีถ่ายรูปในมุมใหม่ๆ เปลี่ยนมุม เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนลูกเล่นไปเรื่อยๆ จำไว้ว่า ณ ตอนนี้อาจจะมีคนเปิดดูเว็บไซต์เราอยู่ก็ได้ แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ บางทีอาจจะเดือนหน้า หรืออีก 3 เดือน หรืออาจจะปลายๆปีกว่าเค้าจะซื้อของเรา
เพราะฉะนั้นต้องมีการอัพเดตสม่ำเสมอ ให้ลูกค้าเห็นถึงความขยันและความเอาใจใส่
6. จัดโปรโมชั่นให้น่าเชื่อถือ เหมาะสมกับกาลเวลาและเทศกาล
ไม่ใช่แบบว่า...ลดโคตรถูก แถมโคตรเยอะ จะทำให้สินค้าไม่น่าเชื่อถือและอาจจะดูเป็นการหลอกลวง
7. วิธีการชำระเงิน ต้องมีให้หลากหลาย
ทั้งโอนเงินเข้าบัญชี เช็ค ธนาณัติ บัตรเครดิต โอนเงินด่วนระหว่างประเทศ ส่งของแล้วจ่ายเงินเลย ฯลฯธนาคารที่รับก็ต้องหลากหลาย อย่างน้อยๆ 3 ธนาคารขึ้นไป
8. ตอบเมล์ลูกค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
บันทึกข้อมูลลูกค้าทุกรายไม่ว่าเค้าจะสั่งซื้อมาก-น้อยโทรหาลูกค้าเก่าๆบ้าง ส่งเมล์หาเป็นระยะๆ สอบถามปัญหา ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าเพื่อแสดงให้เห็นความใส่ใจของเราที่มีต่อลูกค้าทุกคน
Monday, November 2, 2015
AirAsia เปิดแล้ว อู่ตะเภา - เชียงใหม่, หาดใหญ่, อุดรฯ
แอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินใหม่ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดบินตรงจาก “อู่ตะเภา” สู่เชียงใหม่ และหาดใหญ่ พร้อมนำเสนอโปรโมชันพิเศษราคาเริ่มต้นที่ 590 บาท
แอร์เอเชียเดินหน้าตอกย้ำเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศจาก “ท่าอากาศยานอู่ตะเภา” ฐานปฏิบัติการบินแห่งที่ 5 เปิดเพิ่มอีก 2 เส้นทางบินใหม่จากพัทยา (อู่ตะเภา) บินตรงสู่จังหวัดเชียงใหม่ และเมืองหาดใหญ่ เชื่อมโยงภาคตะวันออกสู่ภาคเหนือและภาคใต้ นำเสนอการเดินทางที่หลากหลาย ครอบคลุมเส้นทางเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่เส้นทางบินตรงสู่จังหวัดอุดรธานี ภาคอีสาน ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า การเปิดเส้นทางบินใหม่ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสการเดินทางภายในประเทศให้มีความหลากหลาย ซึ่งจุดหมายปลายทางทั้งเชียงใหม่ และหาดใหญ่ ต่างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวไทยและต่างชาติ ประกอบกับเมืองพัทยาก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์ มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรม จึงเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการเดินทางให้เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้แอร์เอเชียได้นำเสนอราคาโปรโมชันพิเศษเริ่มต้นที่ 590 บาทต่อเที่ยวบิน โดยเส้นทางบิน “อู่ตะเภา-เชียงใหม่” ให้บริการบินตรง 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (ให้บริการทุกวันวันละ 2 เที่ยวบิน ยกเว้น วันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ ให้บริการวันละ 1 เที่ยวบิน) เริ่มจองได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2558 เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ถึง 29 ตุลาคม 2559
ทั้งนี้ทำให้วันที่ 27 พฤศจิกายน 2558 ไทยแอร์เอเชียจะให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ พร้อมกัน 4 เส้นทางใหม่ คือเส้นทางอู่ตะเภา-เชียงใหม่ และอีก 3 เส้นทางที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้คือ จากอู่ตะเภา สู่สิงคโปร์ มาเก๊าและอุดรธานี
สำหรับอีก 1 เส้นทางบินใหม่ “อู่ตะเภา-หาดใหญ่” พร้อมให้บริการ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันจันทร์, อังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์) ราคาโปรโมชันเริ่มต้นที่ 590 บาทต่อเที่ยวบิน เริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 2-15 พฤศจิกายน 2558 เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2559 ทำให้ปัจจุบันแอร์เอเชียได้เปิดตัวพร้อมให้บริการบินตรงจากท่าอากาศยานอู่ตะเภา สู่ 8 เส้นทางบินแล้ว คือ หนานหนิง หนานชาง กัวลาลัมเปอร์ มาเก๊า สิงคโปร์ อุดรธานี เชียงใหม่ และหาดใหญ่
จองที่นี่
Sunday, November 1, 2015
หรือว่ามาตรฐาน The Voice Thailand ต่ำลง! (ตัดต่อเอาฮา อย่าคิดมาก)
เมื่อวานนี้ได้ชมการแข่งขัน The Voice Thailand Season 4 รอบ Battle
ซึ่งมีผู้แข่งขันท่านหนึ่งที่เป็นที่วิพากวิจารณ์มาตั้งแต่ผ่านรอบ Blind Audition มาแล้วอย่างกว้างขวาง ซึ่งการ Battle ครั้งนี้ก็ได้ทำให้ผู้ชมทางบ้านได้รู้แจ้งแก่ใจแล้วว่าผู้แข่งขันท่านนี้สมควรผ่านเข้ารอบมาได้หรือไม่ (ผู้ชมตัดสินกันเอาเองนะ)
และเมื่อการ Battle ผ่านไปได้ไม่กี่วินาที ก็ทำให้รู้ว่า สงสารและเสียดายโอกาสของผู้เข้าแข่งขันท่านอื่นๆเสียจริงๆ หลายท่านที่เสียงดีถึงดีมาก แต่ไม่ผ่านการคัดเลือก แต่โค้ชกับเลือกผู้แข่งขันท่านนี้เข้ามา หรือมาตรฐานของ The Voice Thailand จะต่ำลง ตั้งแต่โค้ชแสตมป์ขอลาออกไป
และเมื่อการ Battle จบลง โค้ชท่านนั้นก็ไม่ได้เลือกผู้เข้าแข่งขันท่านนี้ ก็ทำให้โล่งใจไปได้ แต่ไม่ทันถึง 3 วินาที โค้ชอีก 2 ท่านกลับทำการ Steal แย่งผู้แข่งขันท่านนี้ และเมื่อได้ฟังเหตุผลที่ Steal แล้ว ก็ถึงกับอึ้งไปตามๆกัน ทำให้โค้ช Adam และ Blake แห่ง The Voice USA อดทนไม่ไหว ต้องตอบโต้ให้รู้ว่า
แท้จริงแล้ว The Voice คืออะไร (ตัดต่อเอาฮา อย่าคิดมาก)
เชิญรับชม Clip
ซึ่งมีผู้แข่งขันท่านหนึ่งที่เป็นที่วิพากวิจารณ์มาตั้งแต่ผ่านรอบ Blind Audition มาแล้วอย่างกว้างขวาง ซึ่งการ Battle ครั้งนี้ก็ได้ทำให้ผู้ชมทางบ้านได้รู้แจ้งแก่ใจแล้วว่าผู้แข่งขันท่านนี้สมควรผ่านเข้ารอบมาได้หรือไม่ (ผู้ชมตัดสินกันเอาเองนะ)
และเมื่อการ Battle ผ่านไปได้ไม่กี่วินาที ก็ทำให้รู้ว่า สงสารและเสียดายโอกาสของผู้เข้าแข่งขันท่านอื่นๆเสียจริงๆ หลายท่านที่เสียงดีถึงดีมาก แต่ไม่ผ่านการคัดเลือก แต่โค้ชกับเลือกผู้แข่งขันท่านนี้เข้ามา หรือมาตรฐานของ The Voice Thailand จะต่ำลง ตั้งแต่โค้ชแสตมป์ขอลาออกไป
และเมื่อการ Battle จบลง โค้ชท่านนั้นก็ไม่ได้เลือกผู้เข้าแข่งขันท่านนี้ ก็ทำให้โล่งใจไปได้ แต่ไม่ทันถึง 3 วินาที โค้ชอีก 2 ท่านกลับทำการ Steal แย่งผู้แข่งขันท่านนี้ และเมื่อได้ฟังเหตุผลที่ Steal แล้ว ก็ถึงกับอึ้งไปตามๆกัน ทำให้โค้ช Adam และ Blake แห่ง The Voice USA อดทนไม่ไหว ต้องตอบโต้ให้รู้ว่า
แท้จริงแล้ว The Voice คืออะไร (ตัดต่อเอาฮา อย่าคิดมาก)
เชิญรับชม Clip
Subscribe to:
Posts (Atom)